การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)

บริษัท ดิจิทัล เฮลท์ เวนเจอร์ จำกัด (บริษัท) จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับอันเนื่องมาจากการใช้เว็บไซต์ www.nursesoulciety.com (เว็บไซต์)  หรือช่องทางอื่นใดของบริษัท ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ตามกฎหมายในการแจ้งเอกสารฉบับนี้ให้ท่านทราบถึงเหตุผลและวิธีการที่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงแจ้งให้ท่านทราบสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

วัตถุประสงค์

บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ขอบเขตที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และประมวลผลข้อมูลเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อรับบริการของบริษัท หรือตามที่ท่านให้ความยินยอมไว้ โดยบริษัท ได้สรุปการเก็บ รวบรม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน พร้อมทั้งอธิบายฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบด้วยกฎหมาย (Lawful Basis of Processing) ดังนี้

วัตถุประสงค์ ประเภทข้อมูล ฐานการประมวลผลที่ชอบด้วยกฎหมาย
1

เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับบริการจากเว็บไซต์โดยการสร้างบัญชีผู้ใช้งาน บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อสร้างบัญชีผู้ใช้งานสำหรับรับบริการที่จัดให้มีในเว็บไซต์ เช่น การเข้าถึงบทความ การใช้บริการ Nurse Market การสมัครงาน การซื้อคอร์สเรียนออนไลน์ และหรือบริการอื่นที่บริษัท จะจัดให้มีในอนาคต

  • ข้อมูลระบุตัวตน
  • ข้อมูลสำหรับการติดต่อ

เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาเข้ารับบริการเว็บไซต์กับบริษัท (ม.24 (3))

2

เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์หาตำแหน่งงานที่เหมาะสมให้แก่ท่าน บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปวิเคราะห์หาตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับความประสงค์ของท่านที่ให้ไว้บนเว็บไซต์ของบริษัท และอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทที่อาจมีตำแหน่งงานตามความประสงค์ของท่าน

  • ข้อมูลระบุตัวตน
  • ข้อมูลสำหรับการติดต่อ

เป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินการตามคำขอของท่าน (ม.24 (3))

3

เพื่อวัตถุประสงค์ในการซื้อสินค้าและบริการบนเว็บไซต์ บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อประโยชน์ในการรับสินค้าและบริการที่ท่านได้ชำระเงินแล้วบนเว็บไซต์

  • ข้อมูลระบุตัวตน
  • ข้อมูลสำหรับการติดต่อ
  • ข้อมูลทางการเงิน

เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาเข้ารับบริการเว็บไซต์กับบริษัท (ม.24 (3))

4

เพื่อวัตถุประสงค์ในการศึกษาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาคุณภาพของเว็บไซต์โดยไม่บ่งชี้ตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการศึกษาวิเคราะห์เพื่อการพัฒนาคุณภาพของเว็บไซต์ โดยจะทำเป็นรูปแบบรายงานผลโดยภาพรวมที่ไม่มีการบ่งชี้ตัวตนของเจ้าของข้อมูล และบริษัทจะรักษาความลับของข้อมูลดังกล่าวของท่านอย่างเคร่งครัด

  • ข้อมูลสถิติ

เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท (Legitimate Interest) ในการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติโดยไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวตนได้เพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร และการให้บริการต่างๆ ของบริษัท (ม.24 (5))

5

เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดของบริษัท บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อติดตามกิจกรรมการใช้เว็บไซต์ของท่าน และติดต่อเพื่อสื่อสาร ส่งข้อมูลข่าวสารด้านการแพทย์ และการพยาบาล และนำเสนอโปรโมชั่น สินค้าและบริการ แก่ท่านตามที่ท่านได้ให้ความยินยอม

  • ข้อมูลระบุตัวตน
  • ข้อมูลสำหรับการติดต่อ
  • ข้อมูลการสมัครข่าวสารและการเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด

บริษัทจะดำเนินการในเรื่องนี้ได้หลังจากได้รับความยินยอมจากท่านในการให้บริษัท นำข้อมูลด้านสุขภาพไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด (ม.26)

6
เพื่อการปฏิบัติตามสัญญากับท่าน หรือดำเนินตามคำขอของท่านในการเข้าทำสัญญากับบุคคลอื่น บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการดำเนินการ เช่น

- ติดต่อสื่อสารกับท่านในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญาทั้งก่อนทำสัญญาและภายหลังทำสัญญา

- จ่ายเงินและค่าจ้างใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามสัญญา

- ตรวจสอบความเรียบร้อยและความสำเร็จของงานตามสัญญา

เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญากับท่านในฐานะที่ท่านเป็นผู้ให้ท่านเป็นผู้ให้บริการกับบริษัท หรือดำเนินตามคำขอของท่านในการเข้าทำสัญญากับบริษัท (ม.24 (3))

นอกจากวัตถุประสงค์ที่ระบุข้างต้นแล้ว บริษัทจะไม่นำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ยกเว้นในกรณีที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 อนุญาต เช่น

  • เมื่อได้รับความยินยอมจากท่าน  (ม.24) หรือเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านในกรณีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว (ม.26)
  • เพื่อการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (ม.24 (1))
  • เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทกับท่าน (ม.24 (3))
  • เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท (ม.24 (4))
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท (Legitimate Interest) หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (ม.24 (5))
  • เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัท(ม.24 (6))
  • เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย (ม.26 (4))
  • เพื่อประโยชน์ด้านสาธารณสุข หรือการคุ้มครองทางสังคมอื่นใดโดยบริษัทจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (ม.26 (5) (ข))
  • เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายด้านการคุ้มครองแรงงาน การให้สวัสดิการรักษาพยาบาล การประกันสังคม (ม.26 (5) (ค))

ขอบเขตนิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

“ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ) หรือข้อมูลอื่นใดที่กระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

“ประมวลผล” หมายถึง เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย

“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่มีอํานาจในการตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

หน้าที่ความรับผิดชอบ แนวทางปฏิบัติ

1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวมจากท่าน

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม สามารถจำแนกเป็นประเภทดังต่อไปนี้

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียด
1. ข้อมูลระบุตัวตน (Personal data)
เช่น ชื่อ นามสกุล เลขที่บัตรประชาชน ID รูปถ่ายใบหน้า เพศ วันเดือนปีเกิด หนังสือเดินทาง หรือหมายเลขที่ระบุตัวตนอื่น ๆ
2. ข้อมูลสำหรับการติดต่อ (Contact data)
เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล
3. ข้อมูลการเงิน (Financial data)
เช่น ข้อมูลการเรียกเก็บเงิน ข้อมูลบัตรเครดิตหรือเดบิต ข้อมูลใบเสร็จ ข้อมูลใบราคา
4. ข้อมูลวุฒิการศึกษา
เช่น ระดับการศึกษา ชื่อสถาบัน
5. ข้อมูลประสบการณ์ทำงาน
เช่น ตำแหน่งงาน ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
6. ข้อมูลการสมัครข่าวสารและการเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด (Marketing Data)
เช่น ข้อมูลที่ใช้ในการลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารและเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด
7. ข้อมูลสถิติ (Statistical Data)
เช่น ข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตน จำนวนผู้ป่วย และจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์
8. ข้อมูลจากการเข้าใช้เว็บไซต์ (Technical data)
เช่น หมายเลข IP Address ของคอมพิวเตอร์ ชนิดของบราวเซอร์ ข้อมูล Cookies การตั้งค่าเรื่องเขตเวลา (time zone) ระบบปฏิบัติการ แพลตฟอร์มและเทคโนโลยีของอุปกรณ์ที่ใช้เข้าเว็บไซต์ และ Online Appointment System

2. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากท่านโดยตรงผ่านการลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้งานเว็บไซต์ และการใช้บริการอื่นๆบนเว็บไซต์ดังกล่าว

3. การเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากท่านโดยตรงผ่านการลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้งานเว็บไซต์ และการใช้บริการอื่นๆบนเว็บไซต์ดังกล่าว

บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บุคคลภายนอก ยกเว้นเป็นกรณีที่กฎหมายอนุญาตเพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติงาน หรือตามความประสงค์ของท่าน ซึ่งทำให้บริษัท อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ในกรณีต่อไปนี้

  1. เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้หน่วยงานราชการ หน่วยงานผู้มีอำนาจหรือบุคคลใดๆ เมื่อมีกฎหมายกำหนดหรือให้อำนาจ รวมถึงการปฏิบัติตามคำสั่งศาล
  2. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลหรือนิติบุคคลที่บริษัทจำเป็นต้องปฏิบัติตามสัญญาหรือเพื่อผลประโยชน์ของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัท กำหนดให้บุคคลหรือนิติบุคคลเหล่านี้ต้องรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามมาตรฐานที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด
  3. บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในระบบประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud Computing) โดยใช้บริการจากบุคคลที่สามไม่ว่าตั้งอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ โดยบริษัท ได้เข้าทำสัญญากับบุคคลดังกล่าวด้วยความระมัดระวังและพิจารณาถึงระบบรักษาความปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ให้บริการระบบ Cloud Computing นั้นให้กับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

4. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

  1. บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่บริษัท ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมา
  2. ในกรณีที่บริษัท ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ปฏิบัติตามคำสั่งศาล หรือต้องก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายเพื่อเข้ากระบวนการระงับข้อพิพาทใดๆ บริษัท อาจจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามระยะเวลาของอายุความตามกฎหมาย หรือจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะถึงที่สุดแล้วแต่กรณี

5. มาตรการในการเก็บรักษาและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

  1.  บริษัทจะจัดการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลด้วยมาตรการไม่น้อยกว่าระดับที่กฎหมายกำหนด และด้วยระบบที่เหมาะสม เพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เช่น ใช้โปรโตคอลดความปลอดภัย (Secure Sockets Layer: SSL) ปกป้องด้วยไฟร์วอลล์ รหัสผ่าน และมาตรการทางเทคนิคอื่นๆ สำหรับการเข้ารหัสข้อมูลผ่านทางอินเตอร์เน็ต และจัดเก็บในสถานที่ที่มีระบบป้องกันการเข้าถึงที่จำกัดบุคคลที่สามารถเข้าถึงได้สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบเอกสาร
  2. บริษัทจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจจะเข้าถึงได้โดยพนักงาน ตัวแทน คู่ค้า หรือบุคคลภายนอก การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกจะสามารถทำได้ตามเท่าที่กำหนดไว้หรือตามคำสั่ง ซึ่งบุคคลภายนอกจะต้องมีหน้าที่ในการรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  3. บริษัทจัดให้มีวิธีการทางเทคโนโลยีเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต
  4. บริษัทมีระบบตรวจสอบเพื่อจัดการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นในการดำเนินการของบริษัท
  5. ในกรณีที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวบริษัทจะจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลเอกสารและข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในด้านการเข้าถึงและควบคุมการใช้งาน มีระบบการใช้งานและระบบสำรองพร้อมทั้งแผนสำหรับกรณีฉุกเฉิน และมีการตรวจสอบประเมินความเสี่ยงของระบบอย่างสม่ำเสมอ

6. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

  1. ในบางกรณี บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทอาจดำเนินการดังกล่าวได้หลังจากที่ได้แจ้งกับท่านถึงวัตถุประสงค์ของการดำเนินการดังกล่าว และได้รับการยินยอมจากท่านแล้ว โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจไม่เพียงพอของประเทศปลายทาง
  2. บริษัทสามารถโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากท่านในกรณีที่การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศนั้นเป็นไปเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น หรือเป็นไปตามข้อกำหนดในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัท ดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ ดังนี้

  1. สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent): ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความ ยินยอมในการประมวลผลข้อมูลสวนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัท ได้ตลอดระยะเวลาที่ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท
  2. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access): ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่านและขอให้บริษัท ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงขอให้บริษัท เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัท ให้แก่ท่านได้
  3. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right to rectification): ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัท แก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
  4. สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure): ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัท ทำการลบข้อมูลของ ท่านด้วยเหตุบางประการได้
  5. สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing): ท่านมีสิทธิในการให้บริษัท ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
  6. สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability): ท่านมีสิทธิในการโอนย้าย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัท ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือตัวท่านเองด้วยเหตุบาง ประการได้
  7. สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object): ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

ท่านสามารถติดต่อมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) ของเราได้ เพื่อดำเนินการ ยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้น ได้ที่ 

บริษัท ดิจิทัล เฮลท์ เวนเจอร์ จำกัด 
เลขที่ 488 ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250 
หมายเลขโทรศัพท์   02-022-2222   , Email : DHV.DPOGROUP@samitivej.co.th

8. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท อาจทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในอนาคตเพื่อพัฒนาให้เกิดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ดีขึ้นโดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าว

9. ช่องทางการติดต่อ

ท่านสามารถติดต่อผู้ควบคุมข้อมูล สอบถามหรือใช้สิทธิใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ได้ที่ 

บริษัท ดิจิทัล เฮลท์ เวนเจอร์ จำกัด 
เลขที่ 488 ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250 
หมายเลขโทรศัพท์   02-022-2222   , Email : DHV.DPOGROUP@samitivej.co.th